REMINDING ME: Dong Van ,Ha Giang Vietnam
ตอนที่ 5 เที่ยวเวียดนามเหนือ 14 วัน
” รู้สึกเสียจริตนักเดินทางนับตั้งแต่ได้รู้จักเมือง ดงวัน ในใจเริ่มคิดถึงทั้งๆที่เท้ายังเหยียบแผ่นดินที่ว่านี้อยู่ ถ้าสันดอนปากแม่น้ำโขงเป็นจุดหมายในครั้งต่อไป ยังไงเสียก็ต้องรวม ดงวัน เอาไว้ในแผนด้วยอย่างแน่นอน “
เราขีดข้อแม้เอาไว้ในหัว คำนวณการเดินทางแบบคนงี่เง่าเต่าตุน ไม่สนใจในความสเลนเดอร์แห่งภูมิศาสตร์ของประเทศเวียดนามที่มีความยาวถึง 1650 กิโลเมตร ปณิธานที่เคยตั้งใจไว้ว่าจะไม่ไปไหนในที่ที่เพิ่งเคยไปมา กลายเป็นโมฆะกรรมที่ทดไว้ในใจอย่างคนแกล้งลืม
ความเพ้อเจ้อที่พร่ำมามันเกิดขึ้นระหว่างตอนเดินเล่นที่ทุ่งข้าวหลังที่พักในยามเย็น พอแดดเริ่มตก มีลมพัด ภาพที่เห็นข้างหน้ามันทำให้คิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยเพลิดเพลินดี ก่อนหน้านี้ตอนช่วงบ่ายเราขึ้นไปบนป้อมโบราณตรงยอดเขา ที่เมื่อสองปีก่อนทำเอาเราน้ำตาซึม ความซาบซึ้งไม่ได้เกิดในคราวนี้ คงอาจเป็นเพราะแดดที่มันร้อนจนแสบผิว อากาศหนาวในเดือนกุมภาพันธ์คราวนั้น มันช่วยสร้างบรรยากาศในอีกรูปแบบอย่างคาดไม่ถึง หากจะวัดตัดสินภาพที่ได้เห็นในตอนนี้ของปลายสิงหาฯ คงเป็นเรื่องยากลำบากใจ เห็นทีต้องมาลองชั่งตวงกันอีกทีตอนอากาศเริ่มเย็นของปลายตุลาฯที่ต้นข้าวยังพอมี เห็นว่าปีนี้เทศกาลดอกโซบะ (Buckwheat) ที่ปกติจะบานสะพรั่งกันตอนเดือนตุลาฯจะถูกเลื่อนออกไปอีกหนึ่งเดือนเพราะมีการปรับแผนเพื่อดึงดูดผู้คนให้มาท่องเที่ยวจังหวัดฮาซางให้นานขึ้นกว่าเดิม (หลังการเก็บเกี่ยว เกษตกรจะเพาะปลูกต้นโซบะเพื่อไถกลบบำรุงดิน)
ตอนนี้ถือเป็นตอนสุดท้ายเป็นการเก็บตกที่เที่ยวอื่นๆที่เรายังไม่พูดถึงในตอนก่อนๆ ถึงแม้เราจะใช้เวลาอยู่ที่นี่ในครั้งนี้ถึง 5 คืน แต่ในทุกๆวันก็มีอะไรให้เราได้ทำ ได้ดู อย่างไม่เบื่อหน่ายและแทบจะไม่ซ้ำกับการมาในครั้งก่อนเลย
สถานที่เที่ยวเมือง ดงวัน
ล่องเรือ แม่น้ำญอเกว๊ (Nho Quế)
เตี่ยบไกด์ท้องถิ่นพาเราซ้อนมอเตอร์ไซค์ไปตามทางเล็กๆที่เลื้อยพับกันไปมาลงไปยังแม่น้ำ ทางตรงนี้ก็เพิ่งมีการเทปูนซ่อมแซมเสร็จ เมื่อก่อนคงต้องเดินเท้าเอาอย่างเดียวในหน้าฝนแบบนี้ เมื่อถึงหมู่บ้านเล็กๆพวกเราก็ช่วยกันลากเรือเล็กลงไปในน้ำ เตี่ยบพานั่งย้อนขึ้นมาทางเหนือ ซึ่งจะมีเกาะแก่งดูสวยงาม เราจอดเรือแล้วเดินเท้าต่อ ซึ่งบางช่วงต้องปีนป่ายไปตามหินน่ากลัวและเหนื่อยอยู่เหมือนกัน (ปกติแล้วจะไม่ได้พามาตรงนี้ จะเพียงล่องผ่านช่องเขาในแม่น้ำอย่างเดียว อันนี้เรามากันเล่นๆเฉยๆ)
คนส่วนใหญ่จะชื่นชมหุบเขาตู่เซิน Tu San และ แม่น้ำญอเกว๊ Nho Que (องุ่นอบเชย) ที่ถนนตรงช่วง ม๊าปิเหล่ง Ma Pi Leng แต่จริงๆแล้วเราสามารถมองวิวแห่งนี้ในแบบที่ต้องแหงนคอมองขึ้นลงและแพนหน้าซ้ายขวาเพื่อเก็บภาพความประทับใจทั้งหมดให้ได้ในการเห็น ซึ่งเป็นทางเลือกใหม่ที่เพิ่งมีบริการได้ไม่นานมานี้หลังจากที่เขื่อนสร้างเสร็จ
ภาพมุมสูงให้ความประทับใจในแบบภาพยนตร์จอกว้าง แต่การลงมาในแม่น้ำนั้น มันเหมือนกับเราได้เข้ามาอยู่ร่วมเล่นในฉากหนังที่งดงาม ให้ความรู้สึกตื่นตาตื่นใจกว่าด้านบนอยู่หลายเท่า ถึงแม้น้ำสีเขียวจะมองจากระยะไกลสวยกว่า แต่ภูเขาที่ตั้งตระหง่านในระยะใกล้ก็ทำให้ขนลุกได้เสมอ เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาที่ ดงวัน
เส้นทางเดินเขา ดงวัน
เมื่อเราเดินมาที่จตุรัสเก่ากลางเมือง มุ่งหน้าไปทางภูเขาจะมีเส้นทางที่ลัดเลาะไปทางซ้าย หากเราเดินไปเรื่อยๆจะสามารถเดินวนรอบได้ เป็นเส้นทางที่ไม่ต้องขึ้นลงเนินมากแต่ว่าค่อนข้างไกลอยู่ ระยะทางทั้งหมด 13 กิโลเมตร พอเจอทางแยกหรือทางเลี้ยวใดๆให้เดินไปทางขวา เมื่อผ่านโรงเรียนซึ่งจะเป็นเส้นทางตะเข็บชายแดน เห็นประเทศจีนอยู่อีกฝากของภูเขา วิวทุ่งนาขั้นบันไดจะเห็นได้จากแถวนี้
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วพร้อมน้ำในกระติกที่ใกล้หมดลง เราเริ่มหิว จึงเปิด Google Map เห็นมีร้านอาหารอยู่ในหมู่บ้าน Thien Huong ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหมู่บ้านโบราณอายุร้อยปี พอเราเดินถึงต้นไทรใหญ่ที่เป็นที่เคารพของคนในละแวกนี้ จะมีทางแยกเดินลงเขาไปอีก 2 กิโลเมตร เราตัดสินใจเดินลงไป แต่ด้วยความทรงจำเมื่อสองปีก่อนเราเคยไปที่นั่นแล้ว ไม่เห็นมีกิจการร้านค้าใดๆ แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก ก้าวเท้าเดินต่อไป เมื่อไปถึงกลับเป็นเพียงบ้านคนธรรมดาที่ไม่ได้มีอะไรวางขาย หรือแม้แต่จะมีผู้คนอยู่ บ้านแทบทุกหลังดูเงียบเหงา ผู้คนต่างออกไปทำธุระหรือทำไร่ทำนากัน เมื่อน้ำหมดและเริ่มหิวจัด เราจึงต้องรบกวนเตี่ยบไกด์ท้องถิ่นให้ขี่รถมารับเราอีกครั้ง
ไม่นานเตี่ยบก็มาถึง ขากลับเราผ่านถนนที่เห็นหมู่บ้านเล็กๆที่เกาะแนวเขาเห็นวิวชายแดนที่สวยงาม เป็นบ้านเกิดของภรรยาของเตี่ยบ สักวันเขามีฝันอยากสร้างโฮมสเตย์ที่นั่นไว้ให้นักเดินทางได้มาพัก เราสอบถามเรื่องร้านอาหารที่ไม่มีอยู่จริงกลับพบว่า ที่นั่นเป็นบ้านของเฉียนพนักงานที่ Ethnic House คนที่ไปเดินสันหลังมังกรกับเราเมื่อวันก่อน ปกติแล้วร้านอาหารหรือโฮมสตเย์ในหมู่บ้านที่ห่างไกลจะต้องมีการโทรจองล่วงหน้า เพื่อเตรียมการดังกล่าว หลายที่ไม่ได้มีนักท่องเที่ยวมากันเยอะจนสามารถเปิดกิจการแบบถาวรได้
เดินเล่นในเมือง ดงวัน
ถ้าเป็นที่โปรดที่เราต้องมาทุกเย็นก็คือทุ่งนาหลังบ้าน จากจตุรัสเก่าเดินจนสุดถนนให้แยกมาทางซ้าย ตรงนี้จะมีโฮมสเตย์น่ารักๆเงียบๆอยู่หลายแห่ง เมื่อถึงศาลเจ้าแหล่งน้ำศักสิทธิ์ (Hoá thạch & Miếu thờ thần nước) จะมีทางแยกมาที่ทุ่งนาทางซ้ายมือ สามารถเดินทะลุไปที่ถนนอีกฝั่งของเมืองได้ ตรงกลางทุ่งนาจะมี ศาลเจ้าเล็กๆอยู่กลางทุ่ง (Đền Quan Hoàng) วิวไม่ได้พิเศษไปกว่าที่อื่นๆในเวียดนาม แถมยังเห็นตึกสมัยใหม่ยืนเรียงเป็นฉากหลัง แต่เราก็ไม่รู้ทำไมถึงชอบที่นี่มากเป็นพิเศษ
อีกที่หนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือป้อมโบราณสมัยฝรั่งเศษบนยอดเขา ถ้าเริ่มจากจตุรัสเมืองเก่าเดินจนสุดถนนให้เลี้ยวขวา จะมีป้ายเล็กๆให้เลี้ยวซ้ายเพื่อเดินจนถึงยอดเขา ใช้เวลาไม่นานเพียง 15 นาที วิวด้านบนจะเห็นเมืองทั้งเมืองสวยงามมาก บางคนมาชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือตกตรงที่แห่งนี้
ความสวยงามตามธรรมชาติเป็นตัวแปรหนึ่งที่สร้างบรรยากาศแห่งความรื่นรมย์ วิถีชนบทเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่เราชื่นชอบ แต่ความมีชีวิตชีวาของที่นี่จะไม่มีทางสมบูรณ์แบบไปได้ หากขาดความมีน้ำใจของคนท้องถิ่นที่มีต่อแปลกหน้า เสมือนสเน่ห์อันเป็นรางวัลชีวิตสำหรับนักเดินทาง ทริปเวียดนามเหนือในครั้งนี้มันเติมเต็มบางสิ่งบางอย่างที่เราต้องการ มันช่วยฟื้นฟูความห่อเหี่ยวให้กลับชุ่มชื่น ประสบการณ์ที่ประทับใจจะไม่เกิดขึ้นได้หากขาดผู้คนเหล่านี้จริงๆ ซึ่งนอกจากภาพวิวต่างๆที่เรากลับมานั่งดูซ้ำไปซ้ำมาด้วยความคิดถึง ภาพผู้คนที่เราได้พบเจอจากที่ต่างๆก็ทำให้เรานั่งยิ้มอยู่คนเดียวได้เช่นกัน
ถึงแม้เราจะเดินทางคนเดียวแต่ก็ไม่ได้รู้สึกเหงาหรือไม่ปลอดภัย ประเทศเวียดนามมีความยินดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยวที่ทำให้เรารู้สึกเป็นมากกว่าแขกผู้มาเยือน เรารู้สึกได้ถึงความจริงใจในมิตรภาพที่ได้รับ ถึงแม้จะไม่ได้รู้สึกแบบนี้กับทุกส่วนของประเทศ แต่ทุกๆที่ที่ได้ไปมาในทริปนี้ประทับใจเรามากจริงๆ
ขอบคุณ Ethnic House Lounge Bar & Hostel ที่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างประสบการณ์ที่น่าจดจำในครั้งนี้ หากใครจะไปเมือง ดงวัน Dong Van แล้วต้องการติดต่อเตี่ยบไกด์ท้องถิ่น สามารถพูดคุย WhatsApp เพื่อปรับเปลี่ยนวางแผนตามงบประมาณและความชื่นชอบได้ +84869929333 Tiep
อ่านติดตามตอนอื่นๆของทริปนี้ได้ตามลิ้งค์ด้านล่างครับ
ตอนที่ 1 เที่ยวเวียดนามเหนือ 14 วัน – ทะเลสาบบาเบ๋ Ba Be Lake ความโกรธแค้นของมังกร
ตอนที่ 2 เที่ยวเวียดนามเหนือ 14 วัน – น้ำตกบั่นซก Ban Gioc อลังการน้ำตกกั้นพรมแดน
ตอนที่ 3 เที่ยวเวียดนามเหนือ 14 วัน – แหม่ววั่ก Meo Vac เมืองเล็กๆในหุบเขา
ตอนที่ 4 เที่ยวเวียดนามเหนือ 14 วัน -ดงวัน Dong Vang เมืองที่เราหลงรักที่สุดในเวียดนาม