เส้นทางการเดินทาง เที่ยวพม่า14วัน
ย่างกุ้ง – ยองชเว(ทะเลสาบอินเล) – พุกาม – มัณฑะเลย์ –พินอูลวิน
เที่ยวพม่าเมืองไหนดี
ในเมื่อพม่ามีขนาดใหญ่ประมาณ 680,000 ตารางกิโลเมตร ดังนั้นต้องทำความเข้าใจธรรมชาติของการเดินทางในดินแดนที่การพัฒนาในระบบสาธารณะยังเป็นเรื่องแห่งอนาคต ความคาดหวังที่จะไปเยี่ยมชมยังที่ต่างๆของประเทศในช่วงเวลาที่จำกัดเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องวางแผน ในเขตพื้นที่หวงห้ามบางแห่งมีกฎเกณฑ์มากมายที่ต้องเรียนรู้ การเดินทางโดยรถยนต์ที่เหมือนจะดูไม่ห่างไกลกันมากแต่อาจใช้เวลาหลายเท่าตัวในดินแดนแห่งนี้
เที่ยวพม่า14วัน ในครั้งนี้เป็นการมาพม่าครั้งแรกของเรา จึงอยากเดินทางไปยังที่ต่างๆอันเป็นเมืองหลัก โดยจะใช้ระยะเวลาแบบเต็มที่กับวีซ่า ตามปกติแล้วหลังจากหาข้อมูล เราจะใช้หลักเกณฑ์เดินทาง 1 วัน เที่ยว 1 วันเต็มกับเมืองเล็กๆ(เท่ากับต้องพักอย่างน้อย 2 คืน) แต่ถ้าหากเมืองนั้นๆมีสถานที่ต้องเดินทางออกนอกเมือง หรือกิจกรรมที่จะต้องใช้เวลาอย่างเดินเขา ก็จะบวกเพิ่มไปอีกตามความเหมาะสม จะว่าไปการเดินทางในครั้งนี้ก็ไม่ได้ทั่วถึงอย่างที่จั่วหัวไว้ เพราะยังขาดรัฐกะเหรี่ยงและรัะฐมอญที่น่าจะเป็นไฮไลท์สำคัญ แต่เราจะเก็บการเดินทางที่จะลงมาทางตอนใต้ไว้ในโอกาสต่อไป
รวมทั้งติดตามอ่าน 12 วัน พม่ารำลึก … เที่ยวพม่าเมืองรอง ซึ่งเป็นเมืองเล็กๆที่ไม่ใช่เมืองท่องเที่ยวหลักในโพสต่อไปได้
DAY 1 : กรุงเทพ – ย่างกุ้ง (เครื่องบิน)
การเดินทางโดยทั่วๆไปในย่างกุ้งค่อนข้างสะดวกด้วยแท็กซี่ที่ราคาไม่ได้แพงมาก แต่การจราจรที่นี่นับว่าเลวร้ายสร้างหายนะให้กับคนที่ไม่เผื่อเวลาการเดินทางได้เหมือนกัน ในช่วงครึ่งวันหลังจากที่มาถึง เราใช้เวลาไปกับการมาที่เจดีย์โบตะตาว(ที่มีเทพทันใจ)และเดินเล่นดูอาคารเก่าแถวนั้น ย่านไชน่าทาวน์ ท่าเรือ ที่มีแมนชั่น อาคารพานิชสวยๆอยู่หลายแห่งและมาจบที่มหาเจดีย์ชเวดากองในช่วงเย็น
DAY 2 : ย่างกุ้ง
ครึ่งวันเช้าเราเดินทางมาเที่ยวแถววัดเจ๊าทัตจี(วัดพระนอนตาหวาน)และวัดงาทัตจี จากนั้นในช่วงบ่ายๆก็จะมาที่เจดีย์สุเล และถ้าใครอยากจะร่วมเดินกับYangon Free Walks คือกลุ่มคนทำทัวร์เล็กๆ ที่เกิดจากความร่วมมือของชาวต่างชาติรวมถึงชาวพม่าเอง ที่ชื่นชอบในเรื่องราวประวัติศาสตร์และตึกเก่าของย่างกุ้ง จัดขึ้นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง คือทุกวันพุธ และวันอาทิตย์ เริ่มเวลา 16.00 และสิ้นสุดเวลา 18.30 โดยประมาณ (นัดรวมพล 15.50)ไม่ต้องจองล่วงหน้า ถึงเวลานัดให้ไปรอแถวเจดีย์สุเล หน้าทางเข้าสวน Mahabandula ที่อยู่ตรงข้ามกับ City Hall
DAY 3 : ย่างกุ้ง
พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพม่า นับเป็นที่น่ามาเยี่ยมชมอีกแห่งหนึ่ง ไม่ควรพลาด หลังจากนั้นเราก็ใช้เวลาในการไปวัดต่างๆอย่างเจดีย์กาบาเอและมหาปาสณคูหา(ถ้ำหินอ่อนที่สร้างจำลองมาจากประเทศอินเดีย ที่แห่งนี้เคยใช้เป็น ที่สังคยานาพระธรรมไตรปิฎก) และมาจบที่ตลาดโบจ๊กอองซาน
DAY 4 : ย่างกุ้ง-ยองชเว(ทะเลสาบอินเล) (เครื่องบิน)
เมืองยองชเวน่ารักกว่าที่คาดไว้มาก ขี่จักรยานเล่นไปรอบๆก็สร้างความสุขได้โดยที่ไม่ต้องเหมาเรือเที่ยวทุกวัน มีวัด Shwe Yaunghwe Kyaung เป็นอารามเก่าแก่ที่สร้างด้วยไม้สวยงามมาก และอีกวัดที่อยู่ในเมืองซึ่งมีความเก่าแก่ที่สุดนั่นคือวัดYadana Man Aung Paya และมี Nyaungshwe cultural museum หอเจ้าฟ้าที่ไม่ได้โดนทำลายที่สวยงามควรไปเที่ยวชมเป็นอย่างยิ่ง
DAY 5 : ทะเลสาบอินเล
การเหมาเรือทั้งวันเพื่อไปเที่ยวยังที่ต่างๆก็ไม่ได้ราคาโหดร้ายสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางคนเดียวมากนัก เราเริ่มจากที่ไกลสุด หมู่บ้านอินเดอินแล้วแวะเที่ยวตามทางขากลับ ให้เช็คกับทางโรงแรมถึงตารางตลาดนัดว่าจะไปจัดอยู่หมู่บ้านไหน แล้วเราอาจเริ่มต้นจากที่นั่นก่อนก็ได้ เพราะตลาดที่น่าตื่นตาตื่นใจจะวายเร็วมาก เหลือแต่ร้านของที่ระลึกสำหรับนักท่องเที่ยวที่ส่วนใหญ่จะเปิดขายทั้งวัน
DAY 6 : ยองชเว – พุกาม (เครื่องบิน)
พุกามมีวัดอยู่มากมายที่เราไม่สามารถเยี่ยมชมได้หมดด้วยเวลาอันน้อยนิด ในวันนี้เราก็ออกสำรวจตามวัดต่างๆเท่าที่เวลาจะเอื้ออำนวยหลังจากการเดินทางมาจากยองชเว การขี่ E Bike ทำให้สามารถไปไหนมาไหนด้วยตัวเราเองในราคาที่ไม่ได้แพงนัก หากใครขี้เกียจที่จะเปิดลิส หรือแผนที่ดูว่าวัดไหนควรเยี่ยมชมหรือไม่ ก็ให้ตามถนนลาดยางที่ส่วนใหญ่จะเข้าถึงวัดและเจดีย์ที่สำคัญๆอันมีพระพุทธรูปและภาพวาดฝาผนังที่สวยงาม
DAY 7 : พุกาม
วันนี้เราก็เก็บตกวัดที่สำคัญๆที่ควรไปไล่ตั้งแต่ เจดีย์บูพญา มาตามทาง ในช่วงบ่ายก็ลองขี่ไปตามทางเล็กทางน้อยในแบบที่ไม่ต้องกางแผนที่ ไม่ต้องกลัวหลง เราก็จะพบกับความงดงามเหงาหงอยของศาสนสถานเล็กๆที่มีปริมาณมหาศาลอันหลบซ่อนตามทางเล็กๆที่ผนวกกับทิวทัศน์ที่แห้งแล้งจนเกือบจะเป็นทะเลทราย มันก็ก่อให้เกิดความรู้สึกอิ่มเอมใจไปอีกแบบ
DAY 8 : พุกาม (ภูเขาโปปา)
หลังจากไปชมพระอาทิตย์ขึ้นและทานอาหารเช้าแล้ว เราก็เดินทางไปภูเขาโปปาที่ได้ซื้อทัวร์เอาไว้ จะมีรถมารับถึงโรงแรมที่เราพัก เมื่อกลับมาในช่วงบ่ายสามโมงก็เช่า E Bike เพื่อไปที่ต่างๆรวมทั้งชมพระอาทิตย์ตกตรงจุดที่เราชื่นชอบที่สุด เพื่อเป็นการบอกลาพุกามในวันสุดท้าย
DAY 9 : พุกาม – มัณฑะเลย์
การเดินทางโดยเรือจากท่าในเมืองยองอู ที่ใกล้พุกามจะเริ่มออกจากท่าในเวลา 05.30 โดยใช้เวลาอยู่บนเรือ 9 ชั่วโมง มันเหมือนได้ดูละครเวทีแห่งธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่แห่งอิรวดี เป็นการเดินทางที่ไร้กาลเวลา ทำให้เราได้สัมผัสบรรยากาศที่ยังคงเหมือนอดีตที่เรายังคงสรรหาได้ในปัจจุบัน สามารถเดินทางในเดือนตุลาคม – กุมภาพันธ์
DAY 10 : มัณฑะเลย์
มัณฑะเลย์นั้นประกอบไปด้วยเมืองที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อยู่หลายเมือง เราเหมารถมอเตอร์ไซค์รับจ้างทุกวัน เพราะที่เที่ยวค่อนข้างกระจัดกระจาย ในวันนี้เราไปที่หมู่บ้านมิงกุนและขากลับแวะเมืองสะกาย และในช่วงเย็นก็เที่ยวแถวในเมืองรวมทั้งขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกที่ยอดเขามัณฑะเลย์
DAY 11 : มัณฑะเลย์
วันนี้เราใช้เวลาครึ่งเช้าที่เมืองอังวะ และกลับมาเที่ยวที่ต่างๆในเมืองมัณฑะเลย์ที่เป็นสถานที่สำคัญทางเศรฐกิจในภาคอุตสาหกรรมท้องถิ่นอย่างทอผ้า ทำทองคำเปลว ตลาดหยกแหล่งแกะสลักหิน รวมถึงวัดต่างๆและในช่วงเย็นก็ไปที่เมืองอมรปุระ ที่มีทะเลสาบตองตะมานอันมี สะพานไม้อูเบ็ง
DAY 12 : มัณฑะเลย์ – พินอูลวิน
ในช่วงเช้ามืดเราไปนมัสการพระมหามัยมุนี แล้วรีบกลับมาที่โรงแรมเพื่อขึ้นรถแท็กซี่แบบเหมารวมๆกันหลายคน เพื่อเดินทางไปเมืองพินอูลวิน เราขี่จักรยานเล่นในเมืองสำหรับวันนี้ แต่ก็แอบเหนื่อยมากๆเหมือนกันกับเนินที่มีอยู่หลายลูก ที่นี่มีสวนพฤษศาสตร์ที่ขึ้นชื่อว่าดีงาม
DAY 13 : พินอูลวิน
เสน่ห์กลิ่นอายที่พักตากอากาศโคโลเนียลสมัยเป็นเมืองขึ้นอังกฤษมีกระจายอยู่ตามที่ต่างๆ วันนี้เราเลยเช่ารถมอเตอร์ไซค์เพื่อที่จะได้ออกไปเที่ยวได้ไกลมากขึ้น ที่นี่อาหารการกินค่อนข้างสมบูรณ์ ผักผลไม้ราคาไม่แพง
DAY 14 : พินอูลวิน – มัณฑะเลย์ – กรุงเทพ
ในเช้าวันนี้เราเหมาแท็กซี่เพื่อตรงมาส่งที่สนามบินเพื่อกลับกรุงเทพจากเมืองพินอูลวิน ซึ่งก็ราคาค่อนข้างสูง แต่หากจะเปรียบเทียบกับการที่ต้องนั่งรถไฟหรือรถโดยสารแล้วต้องมานอนค้างที่มัณฑะเลย์อีกหนึ่งคืน นั่นราคาย่อมแพงกว่าอย่างแน่นอน
หลังจากทริปนี้ เรายอมรับเลยว่าหลงรักประเทศนี้มากๆ ถึงขั้นกลับมาที่บ้านแล้ววางแผนและเดินทางต่อเพื่อ เที่ยวพม่าเมืองรอง ในทันที ประเทศนี้มีความพิเศษในหลายๆด้านที่จะทำให้ใครหลายคนหลงรักในการเดินทางมาที่นี่ บรรยากาศอันไร้ซึ่งกาลเวลา ที่อดีตยังอบอวลอยู่ในปัจจุบัน เป็นประสบการณ์ที่เราชื่นชอบมากเป็นพิเศษจริงๆ